รู้ไว้นะ วิธีป้องกันจากการถูกหลอก ให้ทำประกันทางโทรศัพท์

ถูกตัวแทนประกันชีวิตหลอกให้ทำประกัน จะทำยังไงดีเมื่อตกลงทำไปแล้ว เงินจะจ่ายค่าประกันชีวิตก็ไม่มี กลัวโดนฟ้องก็กลัว ถ้าใครเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ บอกเลยเรามีทางออกมาแนะนำ

insurance-arrow

 

1. คุณต้องถามให้ชัดเจนว่าโทรมาจาก “ธนาคาร” หรือ “บริษัทประกัน”

2. ให้ถามชื่อ – นามสกุล และเบอร์ติดต่อ ชื่อบริษัท โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญที่สุด คือ รหัสตัวแทน (รหัสใบอนุญาตของคนขาย) ของผู้ที่นำเสนอขายประกันให้เรา อย่าลืมจดไว้ให้ละเอียดเพื่อประโยชน์ในอนาคต ถ้าเป็นไปได้ให้บันทึกการสนทนาไปด้วยจะดีที่สุด เพราะบรรดาตัวแทนบริษัทประกันจะกลัวการถูกบันทึกการสนทนากรณีที่โทรมาเพื่อหว่านล้อมให้เราทำประกันชีวิตด้วย เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้เราสามารถโทรไปขอตรวจสอบได้ที่ คปภ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย) แล้วถ้าถูกร้องเรียนบ่อยเสียจนขึ้นไปอยู่ในแบล็คลิสต์แล้วละก็ มีสิทธิ์โดนปิดบริษัทได้เลยนะครับ ดังนั้นเราต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา ช่วยกันทำในสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อที่คนที่เอาเปรียบคนอื่นจะได้ไม่สามารถไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีก

 

ช่องทางในการร้องเรียน

1. บริการสายด่วนประกันภัย (คปภ.) 1186

2. บริการข้อมูลข่าวสารทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย โดยตรงก็ที่ คปภ.

3. ติดต่อ คปภ. สำนักงานใหญ่โดยตรงที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 22/79 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 โทร. 0-2515-3999

 

นอกจากนี้ยังมีคำพูด ต้องห้าม ในกรณีที่ตัวแทนบริษัทประกันโทรหาคุณ ถ้าคุณไม่อยากตกเป็นเหยื่อของตัวแทนบริษัทประกันหน้าเลือดแล้วละก็ ทำตามนี้เลย

1. ห้ามพูดคำว่า ” ตกลง” หรือ ” สนใจทำ” หรือ ” ทำ “ เด็ดขาด เพราะคำเหล่านี้จะเป็นหลักฐานยืนยันว่าคุณได้ทำประกันไปจริง ๆ แนะนำให้พูดว่า ” ไม่เอา , ไม่ทำ , ไม่สนใจ, ไม่ต้องโทรมาแล้วและวางสายทันทีไม่ต้องคุยอะไรอีก

2. ห้ามพูดคำว่า “ให้ส่งเอกสารมาให้ดูก่อน” หรือ “ขอดูรายละเอียดก่อน” เพราะจะเข้าทางทันที คนที่โทรมาจะหลอกให้คุณตอบตกลงทำประกัน จากนั้นก็จะตัดเงินในบัตรเครดิต , บัตรเดบิต หรือให้โอนเงินให้ทันที

 

ถ้าเผลอตอบตกลงทำประกันไปแล้ว จะทำยังไงดี

1. ถ้าได้รับการติดต่อภายในวันนั้น ให้ติดต่อกลับไปแจ้งทันทีว่าไม่ทำ และให้ถามเลยว่าตัดเงินจากบัตรไปแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ได้ตัดเงินจากบัตรก็โชคดีไป แต่ถ้าตัดเงินจากบัตรไปแล้วอาจไม่ได้คืนหรือได้คืนก็ช้ามากประมาณ 1 เดือน (แล้วแต่วิธีที่ตกลงกัน)

2. ในกรณีที่ผู้เอาประกันตกลงซื้อประกันผ่านทางโทรศัพท์ แล้วผู้เอาประกันที่ต้องการจะขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตสามารถแจ้งบริษัทประกันเป็นลายลักษณ์อักษรพร้อมแนบกรมธรรม์ประกันชีวิต และส่งไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงบริษัทที่รับประกันภัย ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับกรมธรรม์ประกันชีวิต โดยผู้เสียหายจะได้รับเบี้ยประกันที่จ่ายไปทั้งหมดคืน

ในขณะนี้การขายประกันทางโทรศัพท์กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก ซึ่งการขายประกันทางโทรศัพท์นี้มีชื่อเรียกว่า “เทเลมาร์เก็ตติ้ง” ซึ่งบรรดาบริษัทประกันชีวิตและประกันภัยนิยมใช้วิธีนี้ในการเข้าหาลูกค้าอย่างแพร่หลาย โดยส่วนใหญ่จะเสนอขายประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันสุขภาพ ประกันสินเชื่อเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต เป็นส่วนใหญ่

ประกันชีวิตใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่น่าขยาดอย่างที่หลายคนเข้าใจ ถ้าหากใครมีเวลาไปศึกษาดูจะพบว่าสิทธิประโยชน์ในประกันชีวิตก็มีมากโขอยู่ แต่ทั้งนี้ก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่มุ่งหวังเพียงแต่เรื่องการทำยอดแต่เพียงอย่างเดียว จึงได้ใช้ช่องทางอันไม่ซื่อไปหากินบนความไม่รู้ของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการหลอกล่อต่าง ๆ นานา การสรรหาคำวิเศษเลิศเลอต่าง ๆ เพื่อหว่านล้อมให้คนหลงเชื่อแล้วตัดสินใจทำประกันชีวิตไปแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว พอรู้ตัวอีกทีก็เสียทรัพย์ไปแล้ว ดังนั้นทางเดียวที่จะหยุดวงจรนี่คือทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตาและรายงานพฤติกรรมดังกล่าวของคนกลุ่มนี้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อให้ดำเนินการเอาผิด

แต่ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการถูกหลอกให้ทำประกันก็คือ “สติ” ถ้าเราใช้สติและวิจารณญาณไตร่ตรองคำพูดของคนที่โทรมาชักชวนหรือเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต เราจะเห็นได้ชัดว่าใครหลอกลวงหรือใครจริงใจ ดังนั้นก่อนจะตัดสินใจทำประกันไม่ว่าจะชนิดใด ขอให้ทุกคนมีสติกันให้มาก ๆ นะครับ จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของคนที่ทำนาบนหลังคน

สาธารณสุขเตือน! ใช้มือปั้นข้าวเหนียว เสี่ยงรับเชื้อท้องร่วง

YanroZr4

นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากรายงานพื้นที่ประสบภัยแล้งใน 12 จังหวัด 46 อำเภอ 1,893 หมู่บ้าน ส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคเหนือและอีสานนั้น ค่อนข้างน่าเป็นห่วง โดยในแง่สุขภาพหน้าแล้งมักพบโรคอุจจาระร่วงได้บ่อย สาเหตุเกิดจากการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อเข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้ออี.โคไล (E.Coli) ทำให้มีอาการถ่ายเหลวเป็นน้ำ ซึ่งแต่ละปีมีผู้ป่วยประมาณ 1 ล้านคน และปัจจุบันมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม รายงานจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-23 ก.พ.2559 พบผู้ป่วยอุจจาระร่วง 153,098 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยภาคเหนือป่วยมากสุดอัตรา326 ต่อแสนประชากร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 259 ต่อแสนประชากร ภาคใต้และภาคกลางภาคละ 183 ต่อแสนประชากร

“เชื้ออี.โคไล เป็นเชื้แบคทีเรียในปัสสาวะการใช้ห้องน้ำ ห้องส้วมจึงมีโอกาสได้รับเชื้อมากที่สุด ดังนั้นหลังเข้าห้องน้ำต้องล้างมือฟอกสบู่ให้สะอาดทุกครั้ง แม้ในช่วงนี้บางพื้นที่จะประสบภัยแล้ง มีข้อจำกัดน้ำใช้ก็ตาม เพราะใช้น้ำไม่มาก แต่ถ้ามีอุจจาระติดมือมา จะมีเชื้อโรคติดมาด้วย จากข้อมูลทางวิชาการ พบว่าในอุจจาระ 1 กรัม จะมีเชื้อแบคทีเรีย 1 ล้านตัว และมีเชื้อไวรัสมากถึง 10 ล้านตัว” นพ.บุญเรือง กล่าว

อีกทั้งผู้ที่รับประทานข้าวเหนียวซึ่งมักจะใช้มือหยิบหรือจกข้าว ปั้นเป็นก้อน เพื่อจิ้มกับกับข้าว มีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อโรคที่ติดมากับมือจึงขอให้ระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษ ดูแลความสะอาดเล็บมือและตัดให้สั้น ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร การล้างมือฟอกสบู่ 15 วินาที จะขจัดเชื้อโรคออกไปได้ร้อยละ 90 แต่ถ้าป่วย จะเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยนอกเฉลี่ย 452 บาท เบื้องต้น สบส.ได้ให้อาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.) ให้ความรู้ประชาชนเรื่องโรคอุจจาระร่วงถี่ขึ้นด้วย

รัฐผุดแนวคิด ชวนงดสาดน้ำ “สงกรานต์” ตุนน้ำใช้หน้าแล้ง

ภัยแล้งพ่นพิษ ผอ.สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา แนะงดสาดน้ำ สงกรานต์ เอาแค่ประพรมน้ำให้เป็นพิธีพอ หวังให้นำเหลือพอใช้ในหน้าแล้งก่อนฝนมาถึง

รายงานข่าวแจ้งว่า วานนี้ (24 ก.พ. 59) หน่วยงานรัฐบาลทั้ง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.), ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ, ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ และสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา ได้ออกมาเชิญชวนประชาชนร่วมรณรงค์หยัดการใช้น้ำ หลังจากในปีนี้น้ำในเขื่อนต่างๆ มีปริมาณน้อย และคาดว่าจะไม่เพียงพอต่อการใช้น้ำในช่วงหน้าแล้งที่จะถึง

tnews_1428640696_5402

โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ ที่หน่วยงานรัฐได้แนะนำว่าควรลดจำนวนวันเล่นลง และเปลี่ยนจากการสาดน้ำ ให้เป็นการประพรมน้ำแทน ซึ่งนายทองเปลว กองจันทร์ ผอ.สำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา และโฆษกกรมชลประทาน เผยว่า แนว คิดดังกล่าวเป็นการรณรงค์ช่วยประหยัดน้ำไม่ใช่การให้งดหรือเลิกเล่นกิจกรรม เพราะช่วงเทศกาลสงกรานต์เป็นประเพณีทั่วประเทศต้องใช้น้ำ ซึ่งหากงดจำนวนวันเล่น และปริมาณการใช้น้ำเล่น ก็จะทำให้มีน้ำสำรองใช้ รองรับสถานการณ์ช่วงหน้าแล้งที่จะเกิดขึ้น

ระวังไว้ !! ภัยบนถนน ขับรถอยู่ดีๆ อาจติดคุกได้ แต่คุณเอาตัวรอดได้

เดี๋ยวนี้ตำรวจชอบตั้งด่านตรวจฉี่ข้างถนน หากตำรวจขอตรวจปัสสาวะจากท่านแต่ท่านไม่ยินยอม ท่านก็สามารถที่จะปฏิเสธการตรวจนั้นได้ ตามสิทธิของตน

** แต่หากเป็นกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ยินยอมให้พนักงานสอบสวนตรวจ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ตามกฎหมายให้สันนิษฐานไว้เบื้องต้นว่า ข้อเท็จจริงเป็นไปตามผลการตรวจพิสูจน์ (คือทางตำรวจเขาอาจสันนิษฐานว่าปัสสาวะของท่านมียาเสพติด) ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อท่านเอง

25022016_IMG_1456381384_746

ข้อควรปฏิบัติหากมั่นใจว่าตัวท่านเองไม่ได้เสพยาเสพติด

  1. เวลาถูกเรียกตรวจปัสสาวะ ให้ร้องขอต่อเจ้าหน้าที่ว่ายินยอมให้ตรวจแต่จะไปตรวจที่โรงพยาบาลเท่านั้น
  2. ในกรณีที่ตรวจที่ด่านแล้วผลออกมาเป็นสีม่วง ตำรวจจะตั้งข้อหาท่านทันทีเพื่อควบคุมตัวท่าน ในขั้นตอนนี้ตำรวจจะหว่านล้อมหรือข่มขู่ท่านทุกอย่างให้ท่านยอมรับสารภาพ แต่ถ้าในเมื่อท่านมั่นใจตัวเองว่าไม่ได้เสพก็ขอให้ท่านปฎิเสธข้อหาและขอให้ ไปตรวจปัสสาวะวัดผลที่โรงพยาบาลอีกครั้ง พร้อมแจ้งทางโรงพยาบาลให้เจาะเลือดเพื่อวิเคราะห์หาสารเสพติดด้วย เพราะบางครั้งผลบวกที่ปัสสาวะม่วงโดยการใช้ชุดทดสอบนั้น อาจมาจากยารักษาโรคบางตัวที่มีส่วนผสมของสูโดอีเฟรดีนซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ เมทแอมเฟตามีน
  3. ให้รอผลตรวจจากทางโรงพยาบาลก่อนเซ็นเอกสารใดๆของตำรวจ เพราะตำรวจอาจส่งฟ้องเราแม้เราจะปฎิเสธหรือผลของทางโรงพยาบาลออกมาตรงข้าม กับที่ด่าน โดยตำรวจสามารถทำมึนใช้ผลทดสอบแรกที่ด่านที่เป็นสีม่วงเป็นหลักฐานในการส่ง ฟ้องได้ ดังนั้นเราจึงต้องเก็บเอกสารผลตรวจต่างๆของทางโรงพยาบาล เพื่อจะใช้เป็นพยานหลักฐานในตอนต่อสู้คดี
  4. ข้อควรทราบ การตรวจปัสสาวะ ณ จุดตรวจต่างๆ เป็นการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น ปัสสาวะที่ให้ผลบวก จากการตรวจสอบเบื้องต้นทุกตัวอย่าง จะต้องส่งตรวจยืนยันผลก่อนเสมอ จึงจะสรุปได้ว่ามีสารยาบ้าหรือยาอีผสมอยู่หรือไม่ ดังนั้นหากตำรวจใช้ผลตรวจปัสสาวะจากด่านโดยไม่มีผลจากโรงพยาบาลมาประกอบใน การส่งฟ้อง ส่วนใหญ่จะผู้ต้องหาจะหลุดคดี แต่ผลจะตรงข้ามกันทันทีเมื่อมีผลตรวจจากด่านและคำรับสารภาพที่ท่านเป็นผู้ลง นาม แม้ไม่มีผลตรวจจากโรงพยาบาลมาประกอบในการส่งฟ้อง แต่คำรับสารภาพที่ท่านลงนามนั้นจะเป็นเครื่องมัดตัวท่านอย่างรู้เท่าไม่ถึง การณ์ครับ

ส่วนเรื่องการจะให้ปัสสาวะเพื่อตรวจสารเสพติด ในรถ หลังต้นไม้ หรือริมถนนนั้น ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสมครับ ที่ถูกคือต้องทำในห้องน้ำหรือหาฉากกั้นบัง ไม่ใช่ให้ปัสสาวะใส่ชุดตรวจในรถ หลังต้นไม้ หรือริมทางกันแบบนั้น ในกรณีนี้หากเราเป็นผู้ถูกบังคับข่มขืนใจให้กระทำแบบนั้น เราสามารถขอพบหัวหน้าสถานีก็คือผู้กำกับเพื่อร้องเรียนให้พิจารณาข้อบกพร่อง ในการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจทั้งหมดในชุดนั้นๆได้

VVVNDX_tU9YBJ

ทำไมฉี่เป็นสีม่วง??? ฉี่สีม่วงคืออะไร ???

ฉี่สีม่วง คือ การตรวจปัสสาวะหายาบ้าแบบหนึ่ง ซึ่งราคาไม่แพงและวิธีการก็ทำได้ง่าย โดยนำสารเคมีมาผสมกับปัสสาวะถ้าปัสสาวะมียาบ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีม่วง ทำให้นิยมเรียกกันว่าฉี่สีม่วง แต่ฉี่สีม่วงก็มีข้อควรระวังอยู่เหมือนกัน เนื่องจากจะมีโอกาสเกิดผลบวกลวงขึ้นได้ ผลบวกลวงนี้หมายถึงการที่ฉี่เป็นสีม่วง แต่จริงๆแล้วผู้ถูกตรวจไม่ได้เสพยาบ้าเลย ซึ่งมีกรณีที่เกิดขึ้นจริงแล้วหลายครั้ง

เนื่องจากว่าสารเคมีที่ใช้ทดสอบจะทำปฎิกิริยาเป็นสีม่วงกับสารอื่นด้วย ไม่เฉพาะแต่ยาบ้าอย่างเดียว เช่น ถ้าผู้ถูกตรวจกินยาแก้หวัดหรือยาลดความอ้วน ก็จะเกิดผลบวกลวงขึ้นได้มีข้อควรระวังอีกหนึ่งข้อค่ะ คือฉี่สีม่วงจะมีความไวในการตรวจต่ำ ซึ่งหมายความว่า จะต้องมีปริมาณยาบ้าในปัสสาวะมากหน่อยจึงจะตรวจพบฉี่สีม่วงได้ ทำให้ผู้ที่เสพยาบ้าปริมาณน้อย หรือเสพมานานกว่า 24 ชั่วโมง อาจจะหลุดลอดไปได้ค่ะ ดังนั้นถ้าเราจะใช้ผลการตรวจฉี่สีม่วง เพื่อนำไปเป็นหลักฐานหรือดำเนินคดีก็ควรจะตรวจยืนยันด้วยวิธีการอื่นเพิ่ม เติม เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่ปรักปรำคนผิดไปเพราะผลบวกลวงจากฉี่สีม่วง

จับแน่!! ตำรวจปรับหนัก รถไม่ต่อทะเบียน มีอัตราโทษอ่วม…

สำหรับคนมีรถสิ่งที่ขาดไม่ได้ต้องมี 3 สิ่ง เหมือนเป็นยันต์กันเหนียวยิ่งกว่าหลวงพ่อวัดไหนๆทั้งสิ้น คือ พ.ร.บ. /ประกัน และที่สำคัญ ต่อทะเบียนรถ ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดถึง 10,000 บาท ไม่คุ้มแน่ๆหากคุณต้องโดนปรับทั้งที่จริงการต่อทะเบียนก็ไม่ได้แพงมากมาย อะไร แต่ที่ดูว่าแพงเพราะคุณอาจโดนคิดค่าบริการแฝงโดยไม่รู้ตัว เรื่องจริงคนที่มีรถอาจยังไม่รู้…

prb-car

การต่อทะเบียนรถหรือที่ เรียกติดปากว่าต่อภาษีรถ หลายๆท่านคงใช้บริการของไฟแนนซ์ในการต่อทะเบียนรถประจำปี  ซึ่งต้องเสียค่า บริการประมาณ 300-800 บาท หรืออาจมากกว่านี้ ทั้งที่จริงแล้วคุณทำเองที่บ้าน หรือที่ทำงานได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียเงินค่าบริการสักสตางค์แดงเดียวใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ด้วยการต่อ ทะเบียนรถ+พ.ร.บ. ในช่องทางออนไลน์ของ www.silkspan.com ทำได้ง่ายๆ ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง ไม่มีค่าบริการใดๆทั้งสิ้น ที่สำคัญไม่ต้องเดินทาง เดี๋ยวนี้ 7-11 ก็น่าจะทำได้แล้วมั้ง ถ้าจำไม่ผิด

ถึงตอนนี้คุณต้องตัดสินใจเอาเองแล้วว่าจะต่อ ทะเบียนรถแบบเก่า หรือมุ่งหาสิ่งที่ดีกว่าเดิมด้วยการต่อทะเบียนรถออนไลน์ หนำซ้ำปัจจุบันคุณไม่ต้องกลัวว่าถึงเวลาหมดอายุแล้วจะลืม เพียงสมัครฟรีบริการเตือนต่อทะเบียนรถทาง SMS ได้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง ส่วนลดที่พัก+สปา โดยไม่มีคนโทรไปรบกวนใจ สะดวกกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว